ในปี 2019 มีโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ๆ ออกมามากมาย ซึ่งมีการออกแบบและเพิ่มคุณสมบัติภายในเครื่องที่มากขึ้นสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย ซึ่งเราได้รวบรวมเทรนด์ที่น่าสนใจมาฝากกัน ดังนี้
1. มือถือหน้าจอแบบเจาะรูลงไปในตัวเครื่อง ซึ่งเป็นกรรมวิธีใหม่ เช่น โทรศัพท์ของ Huawei และ Honor ที่จะไม่มีส่วนของติ่งที่กินพื้นที่หน้าจอ โดยจะเป็นการเจาะรูลงในมุมมือถือที่ด้านบนซ้ายของจอแล้วปิดกระจกทับจากโรงงาน ซึ่งจะสามารถช่วยป้องกันฝุ่นละออง ยืดอายุการใช้งานของกล้องมือถือได้ด้วย
2. เพิ่มจำนวนกล้อง ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ด้านละ 3-5 ตัว เช่น โทรศัพท์ Nokia 9 pureview Sony Xperia รุ่น XZ4 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายรูปได้ในมุมในแบบต่าง ๆ ทั้งกลางวันและกลางคืนก็มีความคมชัดสูง สามารถเพิ่มความละเอียดภาพได้มากประมาณ 50 ล้านพิกเซล ทำให้รูปที่ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือมีคุณภาพสูงใกล้เคียงกับการถ่ายรูปด้วยกล้อง
3. สามารถนำข้อมูลในมือถือส่งเข้า Facebook หรือ Application อื่น ๆ ได้ด้วยความรวดเร็ว ด้วยระบบ 5G ที่มีความเร็วสูงกว่าแบบ 4G หลายเท่าตัว ซึ่งมีการผลิตระบบชิปเซ็ตที่มีความสามารถในการประมวลผลได้ไว เช่น Kirin ของ Huawei Snapdragon 855 ของ Sony ที่ทำให้ผู้ใช้งานใช้เวลาในการส่งไฟล์น้อยลงเมื่อเทียบกับในอดีต
4. โทรศัพท์มือถือสามารถพับจอได้หรือ Foldable Screen ทำให้เหมาะกับการใช้งานในหลายรูปแบบ เช่น ขยายหน้าจอเพื่อเล่นเกมส์ ดูหนังได้อย่างเต็มที่และพับจอเก็บให้มีขนาดเท่ากับโทรศัพท์แบบธรรมดาทั่วไปได้
5. มือถือแบบหน้าจอคู่ เพื่อการใช้งานหลายโปรแกรมหรือหลายแอปพลิเคชันพร้อมกัน ทำให้สะดวกต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่มากขึ้น เช่น มือถือ nubia X และ Vivo NEX Dual display
6. ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้เลย โดยที่ไม่ต้องกดปุ่ม พิมพ์ Passwords เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ จึงให้ความสะดวกในการปลดล็อคและมีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น
7. มือถือมีหน่วยความจำหรือ RAM ที่เพิ่มขึ้น จากปี 2018 ที่หน่วยความจำสูงสุดที่ RAM 12 GB จะเพิ่มขึ้นเป็น 512 GB หรือ 1 TB ได้ ซึ่งทำให้ไม่จำเป็นต้องซื้อ microSD card เพื่อการเก็บข้อมูลต่างหากอีกต่อไป
จะเห็นได้ว่าเทรนด์โทรศัพท์มือถือในปี 2019 มีคุณสมบัติที่น่าสนใจหลายด้าน เหมาะกับการใช้งานหลายรูปแบบ ทั้งถ่ายภาพ อัพโหลดข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ดูหนัง เล่นเกม ซึ่งเข้ากับการใช้งานของคนส่วนใหญ่มากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีความสามารถในการเชื่อมต่อกับระบบ IoTs หรือ Internet of Things ซึ่งเป็นการสั่งงานอุปกรณ์ต่าง ๆ จากโทรศัพท์มือถือด้วยความเร็วสูงในระบบ 5G ได้มากขึ้นด้วย